วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

งานผ่านเน็ตได้เงินจริง งานผ่านเน็ตได้เงินจริงหรือหลอกลวง

ขอแนะนำ...งานผ่านเน็ตได้เงินจริง งานผ่านเน็ตได้เงินจริงหรือหลอกเลวง...ในประเทศไทย มีธุรกิจมากมายที่ทำงานผ่านเน็ต ซึ่งเป็นธรรมดาที่มีทั้งถูกต้องตามกฎหมายได้เงินจริง และหลอกลวง อาจมีหลายๆ คนที่เจ็บใจ เสียใจ กับธุรกิจผ่านเน็ตที่หลอกลวง งานที่แนะนำนี้เป็นงานผ่านเน็ตที่ทำแล้วได้เงินจริง 100% ถูกต้องตามกฎหมาย สคบ.รับรอง หากสนใจ ขอเชิญมาร่วมงานกับเรา…

งานผ่านเน็ตได้เงินจริง งานผ่านเน็ตได้เงินจริงหรือหลอกลวง


คุณสมบัติผู้สมัคร
1. มีบัตรประจำตัวประชาชน
2. พักอาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล หรือสามารถเดินทางเข้าไปมา
สัมภาษณ์งานที่กรุงเทพฯ ได้ (เฉพาะครั้งแรกเท่านั้น)
3. ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นประจำ
4. ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ

ลักษณะงาน
เป็นงานทางอินเตอร์เน็ต โดยมีเว็บไซต์และรายละเอียดของงาน
จัดเตรียมไว้ให้ (ไม่ใช่งานขาย/ถูกต้องตามกฎหมาย จ่ายจริง 100% )

เอกสารในการสมัคร
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
- สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร (หน้าแรก) 1 ฉบับ
- รหัสเอกสาร >>>G 129229<<< เพื่อนัดสัมภาษณ์งาน

ผู้ที่สนใจ งานผ่านเน็ตได้เงินจริง
กรุณาติดต่อ คุณ ชญาภา

โทร. 09-4684-7051 , 08-8873-9626
สำนักงานเปิดเวลา 10.00 น. – 17.00 น.
อาคารอิออน (ตรงข้ามมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร)
แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ


พลังจิต พลังจิตใต้สำนึกกับการใช้ชีวิต


ในแต่ละวันเราต้องใช้ความคิดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ยามหลับ สมองก็ยังประมวลผลของความคิดที่เกิดขึ้นมาอยู่ทั้งคืน


ถ้าสมองเราไม่รู้จักกำจัดขยะส่วนเกินออก ก็ไม่ต่างอะไรกับห้องที่มีเอกสารรกรุงรังเต็มไปหมด และในแต่ละวันก็ยังมีเอกสารใหม่ ๆ ส่งเข้ามาอีกมากมาย สมองจะเก็บรวบรวมเอกสารที่คิดว่าสำคัญไว้อย่างเป็นระบบ หมวดหมู่ จนมากพอมันก็จะบีบอัดข้อมูลแปลงเป็นไฟล์แห่งความรู้สึก แล้วส่งต่อไปเก็บที่ฐานข้อมูลส่วนลึกที่เรียกว่า จิตใต้สำนึก

ดังนั้น ถ้าในแต่ละวันเราคิดไม่ดี คิดลบอยู่ตลอดเวลา ข้อมูลที่สมองรวบรวมแล้วส่งไปที่จิตใต้สำนึก ก็จะเป็นความรู้สึกลบ พลังแห่งความรู้สึกนั้นจะเข้มข้นกว่าความคิดมาก เพราะเป็นข้อมูลที่ถูกบีบอัดมาจากความคิดนับพันนับหมื่นความคิด

ในแต่ละวันเราจึงต้องพยายามระวังคำพูดหรือความคิดที่มีความหมายทางลบแฝง อยู่ เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกทางลบขึ้นเล็ก ๆ ทุกครั้งที่พูด คิด หรือทำ และในที่สุดมันจะหล่อหลอมกันเป็นพลังแห่งความคิดรู้สึกลบ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลรุนแรงกว่าที่คาด
ความคิดไม่สามารถเอาชนะความรู้สึกได้ การตัดสินใจของคนเราเกือบร้อยละเก้าสิบมาจากความรู้สึก ไม่ใช่ความคิด พลังความรู้สึกสูงกว่าพลังความคิดมาก เพราะมันออกมาจากส่วนของจิตใต้สำนึก

ลองมาใช้พลังจิตใต้สำนึกกับชีวิตประจำวันกันดีกว่า
1. ความคิด ส่งผลต่อเซลล์ทุกเซลล์ในทุกระบบของร่างกาย และสามารถส่งผลไปถึงเซลล์ของคนอื่น ๆ ได้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์ในระบบประสาท ดังนั้น จงพยายามคิดบวกอยู่เสมอ

2. ในแต่ละวัน คุณจะรับอิทธิพลจากแรงดึงดูดของความคิดคนอื่น ๆ อยู่ตลอดเวลา พยายามกำหนดสติ คัดเลือกเฉพาะความคิดในทางบวกให้เข้ามามีอิทธิพลต่อคุณ

3. จงบอกตัวเองอยู่เสมอว่า คุณสามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้ ชีวิตเป็นไปตามพลังความรู้สึก แม้ว่าจะมีความรู้สึกบางอย่างที่เป็นกรรมเก่าฝังอยู่ในภวังคจิตก็ตาม คุณก็สามารถใช้ความคิดซึ่งเป็นกรรมปัจจุบันไปเปลี่ยนแปลงได้ ความรู้สึกเกิดจากความคิดจำนวนมากที่มาหลอมรวมกัน ดังนั้นในแต่ละวันพยายามคิดดีอยู่เสมอ ย้ำซ้ำ ๆ ลงไปจนเกิดเป็นความรู้สึกใหม่ที่ดี ไปลบล้างความรู้สึกลบที่ผุดขึ้นมาจากภวังคจิต

4. การให้ คือ การเพิ่ม ไม่ว่าสิ่งที่ให้จะเป็นลบหรือบวก ถ้าให้ลบกับคนอื่น ลบในตัวคุณก็จะเพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คุณให้วิทยาทาน ให้ความรู้เป็นทาน ขณะที่คุณให้ จิตวิญญาณคุณก็จะเข้ามารับสิ่งนั้นด้วย ยิ่งให้ยิ่งเก่ง ยิ่งสอนยิ่งรู้ ยิ่งเรียนยิ่งฉลาด ยิ่งบริจาคยิ่งรวย

5. หากรู้สึกโกรธใครสักคน จงหมั่นคิดถึงเขาแต่ในทางดี ในที่สุดความรู้สึกโกรธจะหายไปเอง ความรู้สึกเป็นเรื่องของจิต แต่ความคิดเป็นเรื่องของสมอง คุณห้ามความรู้สึกไม่ได้ แต่ห้ามความคิดได้ ความคิดกับความรู้สึกแยกส่วนกัน ถ้ารู้สึกลบแล้วคิดบวก เหมือนน้ำที่ราดบนกองไฟ แต่ถ้ารู้สึกลบแล้วยังคิดลบ จะเหมือนการราดน้ำมันลงบนกองไฟ

6. จงพยายามฝึกมองส่วนบวกที่ซ่อนอยู่ในลบ ฝึกจนเกิดความสามารถพิเศษ เพราะคนที่จะเป็นอัจฉริยะได้ต้องมีความสามารถพิเศษนี้ สิ่งลบ ๆ ที่เกิดในชีวิตประจำมีมากมาย พยายามใช้ปัญญาเข้าไปวิเคราะห์ ในวิกฤติย่อมมีโอกาส คนคิดบวกจะเห็นบวกที่ซ่อนอยู่ในลบ แต่คนคิดลบจะเห็นแต่ส่วนลบแม้สิ่งนั้นจะเป็นบวก

7. จงจำไว้ว่า ทุก ๆ คนมีแก้วสารพัดนึกอยู่ในตัว เพียงแต่บางคนเท่านั้นที่สามารถนำมันขึ้นมาใช้ได้ เพราะต้องมีเคล็ดลับบางอย่าง ซึ่งเคล็ดลับนั้นก็คือ ขอ เชื่อ รับ ของกระบวนการในเดอะซีเคร็ตนั่นเอง

8. ถ้าคิดลบต่อเหตุการณ์ใด จะดึงดูดให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง คุณจึงเห็นคนล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายครั้ง นั่นเป็นเพราะยังไม่รู้จักเปลี่ยนแปลงวิธีคิด

ขอบคุณ เว็บพลังจิตดอทคอม